อาการ ง่วงนอนตลอดเวลา ง่วงบ่อย ทำให้รู้สึกไม่สดชื่น ประสิทธิภาพในการทำงานก็ไม่ดี การรู้สึกง่วงนอนบ่อย มักเป็นอาการที่หลายคนจะเป็นกันในช่วงที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ หรือในช่วงที่กำลังรู้สึกเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำ บางครั้งก็เกิดอาการสัปหงก ตาปรือ จนต้องดื่มกาแฟ หรือรับประทานเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
สาเหตุที่พบบ่อยของอาการง่วงนอนตลอดเวลา เช่น นอนหลับไม่เพียงพอ เปลี่ยนเวลาในการเข้านอน หรือเกิดความผิดปกติในการนอน เช่น มีการหยุดหายใจในขณะที่หลับ เป็นต้น
สำหรับใครที่มีอาการนอนไม่หลับ และอยากผ่อนคลายความเครียดก่อนนอน Fit Me มีบทความมาแนะนำค่ะ ตามไปอ่านกันได้เลย โยคะก่อนนอน แก้นอนไม่หลับ
ในเบื้องต้น Fit Me อยากจะพาทุกคนไปตรวจสอบอาการของการนอนไม่หลับหรือนอนหลับอย่างไม่มีประสิทธิภาพของเราง่ายๆ กันก่อน เช่น
- หลังเข้านอนใช้เวลาจนกว่าจะนอนหลับนานกว่า 30 นาที
- มีอาการง่วงนอนระหว่างวันบ่อยๆ ง่วงนอนทั้งวัน
- มีอาการชาตามแขนและขาขณะที่กำลังหลับ
- กรนเสียงดัง หรือหยุดหายใจเป็นช่วงสั้นๆ ขณะหลับ อาการนี้ต้องให้คนที่นอนกับเราช่วยสังเกตค่ะ
- มีอาการปวดหัวเวลาตื่นนอน
- มีอาการละเมอ
หากมีอาการเหล่านี้แสดงว่าเราอาจจะนอนไม่เพียงพอ ถึงแม้บางคนอาจจะนอนครบ 8 ชั่วโมง แล้วก็ตาม แต่การนอนไม่มีคุณภาพก็ทำให้ร่างกายของเราพักผ่อนไม่เพียงพอเช่นกัน ส่งผลให้เราเกิดอาการง่วงนอนบ่อยๆ ได้ค่ะ
ง่วงนอนตลอดเวลา สัญญาณเตือน 5 โรคร้าย
ถ้าหากเราง่วงนอนบ่อยครั้งมากขึ้น อาการง่วงนอนก็สามารถเปลี่ยนเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่คุณอาจจะเป็นโดยไม่รู้ตัวได้ มาดูกันดีกว่าว่า อาการง่วงนอนบ่อยเป็นจุดเริ่มต้นของโรคใดได้บ้าง
1.โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง
โรคนี้เป็นโรคที่พัฒนามาจากโรคนอนไม่หลับ แต่เป็นการนอนไม่หลับที่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จนทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียสะสม เข้าขั้นเรื้อรัง โดยมีสาเหตุมาจากการที่บริโภคอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไป ทำให้มีอาการอ่อนเพลียได้ง่าย ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่างๆ ตามมา เช่น ปวดศีรษะบ่อย ง่วงนอนบ่อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และหลับไม่สนิท
2.โรคลมหลับ
หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อโรคนี้ ซึ่งเป็นโรคที่จะมีอาการง่วงนอนมากในช่วงกลางวัน แต่ตอนกลางคืนกลับนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง เมื่อปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานก็จะส่งผลต่อการประมวลผลทางสมอง ทำให้ไม่สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ในระยะยาวได้ ประสิทธิภาพในการเรียนรู้และการทำงานลดลง ก่อให้เกิดอันตรายกับชีวิต เพราะอาจจะทำให้หลับในขณะขับรถได้
3.โรคเบาหวาน
ง่วงนอนตลอดเวลาหรือบ่อย เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน เพราะอย่างที่ทราบกันว่า อาการง่วงนอนบ่อยผิดปกตินั้นเกิดมาจากการที่ร่างกายมีปริมาณแป้งและน้ำตาลมากเกินไป จึงถือเป็นสัญญาณเตือนที่บอกว่าร่างกายของคุณเข้าสู่ภาวะโรคเบาหวานได้นั่นเอง ดังนั้น ควรหมั่นเช็คร่างกายเป็นประจำเพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและเพื่อป้องกัน รักษาได้อย่างถูกวิธี
4.โรคแผลในกระเพาะอาหาร
อาการอ่อนเพลียบ่อยครั้ง อาจมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายเกิดภาวะเสียเลือดในปริมาณมาก เช่น เลือดออกบริเวณกระเพาะอาหาร เป็นต้น ดังนั้นคุณควรหมั่นสังเกตร่างกายของตนเองให้ดีว่านอกจากจะมีอาการอ่อนเพลียแล้ว ยังมีความผิดปกติเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือไม่
5.โรคโลหิตจาง
หนึ่งในสาเหตุหลักของอาการอ่อนเพลีย มาจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอและได้รับสารอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้สามารถเกิดโรคโลหิตจางตามมาได้ ส่งผลให้ในช่วงที่มีอาการอ่อนเพลีย ก็มักจะมีอาการหน้ามืด เหนื่อยง่าย และเซื่องซึมร่วมอยู่ด้วย
สรุป
หากคุณมีอาการง่วงนอนตลอดเวลา อ่อนเพลียบ่อย หรืออ่อนเพลียมากกว่าปกติ ควรเข้ารับการตรวจเช็คร่างกาย เพื่อค้นหาสาเหตุว่าอาการอ่อนเพลียนั้นสามารถพัฒนาเป็นโรคอะไรได้บ้างหรือมีสาเหตุมาจากโรคใดในร่างกาย เพื่อหาวิธีรักษาและป้องกันได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ
จบแล้ว…ไว้พบกันใหม่ บทความหน้าค่ะ
Fit Me ฝากกด Like เพจด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดบทความดีๆ จากเรา
บทความล่าสุด
บอดี้เวท ออกกำลังกาย
10 ท่าลดต้นแขนย้วน ไม่กระชับ สำหรับผู้หญิง ท่าบริหารง่ายๆ
ออกกำลังกาย
คาร์ดิโอ คืออะไร มีอะไรบ้าง ช่วยลดพุง ลดไขมัน ต้องออกกำลังกายกี่นาที
สุขภาพ
8 อาหารสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน สำหรับผู้หญิง
บทความยอดนิยม
สุขภาพ
เคล็ดลับวิธี คำนวณปริมาณแคลอรี่ ที่ต้องการต่อวัน
ออกกำลังกาย เคล็ดลับ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักให้ได้ผล “คาร์ดิโอ กับ เวทเทรนนิ่ง” แบบไหนได้ผลกว่ากัน
วิ่ง ออกกำลังกาย
วิ่งลดน้ำหนัก วิ่งยังไงให้ผอม ไปอ่านวิธีที่ถูกต้องกัน รับรองลดความอ้วนได้แน่
หมวดหมู่สินค้า
สปอร์ตบรา
เสื้อคลุมสปอร์ตบรา
เสื้อกีฬา
กางเกงขาสั้น
กางเกง 5 ส่วน
กางเกงขายาว