5 ความเชื่อผิดๆ กับ การกินเพื่อลดความอ้วน

หลายๆคนคงสงสัย ทำไมหนอ…ลดความอ้วนเท่าไหร่ก็ลดไม่ลงซักที มีหลายๆ คนที่มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ การกินเพื่อลดความอ้วน จึงทำให้สาวๆ ลดเท่าไหร่ก็ยังอวบเหมือนเดิม วันนี้ Fit Me จะพาคุณไปดูกันว่าความเชื่อผิดๆ ในการกินเพื่อลดความอ้วนนั้นมีอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันได้เลย

5 ความเชื่อผิดๆ ใน การกินเพื่อลดน้ำหนัก

1. กินยิ่งน้อย….ยิ่งดี

เมื่อพูดถึงการลดความอ้วนอย่างแรกที่คนส่วนมากคิดถึงคือ การลดอาหาร กินให้น้อย เพื่อลดแคลอรี่ที่จะเข้าสู่ร่างกาย บางคนกินน้อยมากในแต่ละมื้อ หรือบางคนอาจจะงดมื้อเย็นไปเลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นความเข้าใจที่ผิด

การลดความอ้วนนั้นเรายังควรกินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ แต่ปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสารอาหารแทน เช่น เพิ่มโปรตีนให้มากขึ้น ลดปริมาณไขมัน ลดแป้งและน้ำตาล หากจะทานคาร์โบไฮเดรต ก็ควรเลือกแบบเชิงซ้อน เพราะจะมีไฟเบอร์สูง ย่อยช้า ทำให้อิ่มท้องได้นาน เช่น ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีต และมันหวาน เป็นต้น

การลดอาหาร หรือกินน้อยๆ นั้นเป็นต้นเหตุของการเกิด “โยโย่เอฟเฟกต์” เพราะการกินน้อยหรืออดอาหารจะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานน้อยลง เพราะร่างกายจดจำว่าพลังงานที่ได้รับนั้นน้อยมาก ร่างกายจึงลดการเผาผลาญและเก็บไขมันไว้เพื่อเป็นพลังงานสำรอง และเมื่อเรากลับมากินแบบปกติ แต่ร่างกายยังคงใช้การเผาผลาญเดิมเหมือนตอนที่เราอดอาหาร จึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง

ดังนั้นเราจึงไม่ควรอดหรือทานอาหารน้อยมากจนเกินไป แต่ควรเลือกอาหารที่ดีและคำนวณแคลอรี่ที่เหมาะสม เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราลดความอ้วนอย่างมีความสุขมากขึ้นแล้วค่ะ

Fit Me มีเคล็ดลับการเพิ่มระบบเผาผลาญ มาฝาก คลิกอ่านได้ที่ 7 เคล็ดลับเพิ่มระบบเผาผลาญ

2. กินสลัดเท่าไหร่ก็ได้….ไม่อ้วน

สลัด เป็นอาหารยอดฮิตของคนลดความอ้วนเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่เราทราบกัน ผักมีประโยชน์มากมายและให้แคลอรี่น้อย แต่ในการกินสลัดนั้น สิ่งที่คู่กันที่ขาดไม่ได้ คือ น้ำสลัด และน้ำสลัดนี่แหละค่ะ ที่เป็นตัวทำลายความผอมของเรา เพราะในน้ำสลัดส่วนมากมีส่วนผสมของมายองเนสและน้ำตาล ซึ่งทำให้แคลอรี่ที่เราได้รับสูงมาก

การทานสลัดผักให้ได้ประโยชน์นั้น ควรหลีกเลี่ยงน้ำสลัดครีมต่างๆ ให้ทานเป็นสลัดน้ำใสแทน หรือถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ให้ใส่น้อยๆ หรือใช้วิธีจิ้มน้อยๆแล้วทานทีละคำ แทนการราดน้ำสลัดลงไปทีเดียวค่ะ

ช่วงแรกอาจจะทรมานสาวๆได้ เพราะมันจืดไม่ได้รสชาติ แต่เมื่อกินแบบนี้ไปเรื่อยๆ สลัดแบบนี้จะอร่อยขึ้นมาเองอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะคะ

นอกจากนี้อย่าลืมเพิ่มสารอาหารอื่นๆ เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน เช่น การใส่อกไก่ต้ม หรือ ไข่ต้ม จะช่วยเพิ่มโปรตีนและทำให้อิ่มท้องนานขึ้นด้วยค่ะ

3. อยากผอม ต้องกินก่อน 6 โมงเย็น

ช่วงเวลาที่เรากินอาหารเข้าไปนั้นไม่สำคัญเท่ากับ จำนวนแคลอรี่ที่เราได้รับและที่เราใช้ไปในแต่ละวัน ลองคิดดูเล่นๆ ว่า ถ้าเรารับแคลอรี่เข้าไปมากกว่าที่เราเอาออก ไม่ว่าเราจะกินตอนไหนก็อ้วนอยู่ดี

อ่านเพิ่มเติม : วิธีคำนวณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่อวัน

ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ เราควรได้รับสารอาหารและแคลอรี่ที่เหมาะสมในแต่ละวัน และออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานออก เพียงเท่านี้ไม่ว่าเราจะกินตอนไหนก็ไม่อ้วนแล้วค่ะ

Fit Me มีบทความเกี่ยวกับการออกกำลังกายมากมายเลยนะคะ ตามไปอ่านได้ที่ คลิก บทความออกกำลังกาย

4. อาหารไขมันต่ำ…ไม่อ้วน

สาวๆหลายคนเลือกอาหารที่มีฉลาก “ไขมันต่ำ” เป็นตัวเลือกในการลดความอ้วน แต่รู้มั้ยว่า ภายใต้ฉลากไขมันต่ำนั้น อาจมีสิ่งที่ทำให้เราอ้วนซ่อนอยู่โดยที่เราไม่ได้สังเกต

ตัวอย่างเช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ ไขมันอาจจะไม่มาก แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืมดูเด็ดขาด คือ ปริมาณน้ำตาล เพราะโยเกิร์ตไขมันต่ำส่วนใหญ่มักมีการเติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชาติให้ดีขึ้น ทำให้เราได้รับน้ำตาลในปริมาณมากเกินไป

ในการทานโยเกิร์ต ควรเลือกเป็นรสธรรมชาติ ไขมัน 0% ถ้าหากต้องการเพิ่มรสชาติและความหลากหลาย ให้เพิ่มเป็นผลไม้สดลงไปแทนการเลือกโยเกิร์ตแต่งรสผลไม้ต่างๆ เพราะ โยเกิร์ตเหล่านั้นปริมาณน้ำตาลเยอะมากเช่นกันค่ะ

5. งดแป้งก็ผอมแล้ว

คาร์โบไฮเดรตถือเป็นศัตรูตัวร้ายของการลดความอ้วน เพราะเมื่อเราได้รับคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป จะถูกย่อยและเปลี่ยนสภาพเป็นไขมันไปสะสมตามจุดต่างๆ ของร่างกาย แต่การงดแป้งก็ไม่ใช่ทางออกของการลดน้ำหนักเช่นกัน

คาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารสำคัญที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ถ้าเราไม่กินแป้งเลยจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียง่าย เพราะส่วนต่างๆ ของร่างกายต้องการสารอาหารจากคาร์โบไฮเดรตในการทำงาน บางคนอาจรู้สึกหงุดหงิดได้ เพราะคาร์โบไฮเดรตช่วยในการควบคุมสมดุลทางด้านอารมณ์ด้วยค่ะ

หากจะลดความอ้วนเราไม่ควรงด แต่ให้ลดและควบคุมปริมาณ เลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวซ้อมมือ ซีเรียล ธัญพืช ข้าวโอ๊ต เป็นต้น และควรเลือกคาร์โบไฮเดรตที่มีดัชนีไกลซีมิกต่ำ (ดัชนี GI : Glycemic Index) เพราะ ทำให้กลูโคสในเลือดไม่เพิ่มขึ้นสูงเร็วจนเกินไป ส่งผลให้อิ่มนาน โดยส่วนมากมักพบในอาหารที่มีกากใยสูง หวานน้อย และในพืชผักหลายชนิด เช่น ผักผลไม้ ธัญพืช ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ พืชตระกูลถั่ว กล้วย แอปเปิ้ล เป็นต้น

สรุป

การกินเป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนัก ดังนั้นสาวๆ อย่าเพิ่งท้อ ลองนำเคล็ดลับที่เรานำมาฝากไปปรับใช้กันนะคะ ลดความอ้วนไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองมากเกินไป เพราะจะทำให้เราทำได้ไม่นานและล้มเลิกไปเสียก่อน เน้นเลือกกินอาหารที่หลากหลาย ได้รับสารอาหารครบถ้วน หรือจะเลือกเป็นอาหารคลีนก็ได้ และอย่าลืมออกกำลังกายลดน้ำหนักเพื่อเพิ่มการเผาผลาญ ทำให้การลดความอ้วนมีประสิทธิภาพและร่างกายของเราแข็งแรงมากขึ้นด้วยค่ะ

ใครว่าหาซื้ออาหารลดอ้วนยาก ในร้านสะดวกซื้อ ก็หา อาหารลดความอ้วน ได้ง่ายๆ นะคะ

อ่านแล้วชอบบทความ Fit Me ก็ขอฝากกด Like  เพจด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดบทความดีๆ จากเรา ไว้เจอกันบทความหน้าค่ะ